ซาอุดีอาระเบีย และประเทศในกลุ่มอาหรับ เปิดน่านฟ้าให้กองทัพอากาศไทย นำเครื่องบินบินผ่านเพื่ออพยพคนไทยออกจากอิสราเอลแล้ว ซึ่งจะช่วยย่นระยะเวลาเดินทางเหลือเพียง 8 ชั่วโมง จากเดิมที่ต้องบินอ้อมใช้เวลา 12 ชั่วโมง โดยทางกองทัพอากากาศเตรียมใช้แผนเดิมคือ การนำเครื่อง C-130 ไปรับ
ทำให้ภารกิจการอพยพแรงงานไทยกลับจากประเทศอิสราเอล ตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป กองทัพอากาศไม่ต้องนำเครื่องบินแอร์บัส A340-500 และเครื่องบินลำเลียง C-130 บินอ้อมประเทศแล้ว
นายกฯ แจงถึงซาอุฯช้ากว่า 4 ชม. เหตุเครื่องบินเบรกเสีย
ทอ.จัดเครื่องบินเที่ยวบินที่ 2 บินรับคนไทยกลับจากอิสราเอล
"ปานปรีย์" ชี้แจงปมเครื่องบินไทย บินอ้อมเส้นทางอิสราเอล ติดเงื่อนไขน่านฟ้า คำพูดจาก สล็อตทรูวอเลท
ซึ่งจากเดิมในสองเที่ยวบินแรก ที่กองทัพอากาศต้องบินผ่านน่านฟ้าถึง 10 ประเทศ ได้แก่ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว, สาธารณรัฐประชาชนจีน, คาซัคสถาน, อุซเบกิสถาน, เติร์กเมนิสถาน, อาเซอร์ไบจาน, อาร์เมเนีย, ตุรกี, ไซปรัส ไปจนถึงอิสราเอล
แต่ล่าสุด กระทรวงการต่างประเทศ ได้เจรจาขอบินผ่านน่านฟ้าในเส้นทางการบินใหม่ โดยจะผ่านเพียง 7 ประเทศ ได้แก่ เมียนมา, อินเดีย, โอมาน, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, ซาอุดีอาระเบีย, จอร์แดน และอิสราเอล พร้อมลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติเบนกูเรียน กรุงเทลอาวีฟ โดยใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมงครึ่ง จากเดิมที่ต้องบินอ้อมใช้เวลากว่า 13 ชั่วโมง
โดยเส้นทางใหม่ จะสามารถเริ่มบินได้ในเที่ยวบินที่ 3 ที่กองทัพอากาศส่งเครื่องบินแอร์บัส A340-500 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม เวลา 13.30 น. และคาดว่าจะมีแรงงานไทยกลับจากอิสราเอลเพิ่มอีก 140 คน ซึ่งจะเดินทางกลับมาถึงท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง กรุงเทพฯ ในวันที่ 22 ตุลาคมนี้ เวลา 10.50 น.
และเมื่อไม่ต้องบินอ้อมอีกต่อไป กองทัพอากาศกำลังพิจารณาใช้แผนเดิม คือ ใช้เครื่องบิน C130 บินไปรับคนไทยในอิสราเอลด้วย ซึ่งหากเป็นเส้นทางปกติ จะต้องแวะเติมน้ำมันที่อินเดียก่อน
นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศ ขอร้องให้พี่น้องคนไทยในอิสราเอล ที่ยังตัดสินใจไม่เดินทางกลับ พิจารณาให้รอบคอบ และขอให้แน่ใจว่าอยู่ในสถานที่ที่ปลอดภัย ส่วนคนที่เคยแจ้งชื่อไว้กับสถานทูต หากเปลี่ยนใจไม่เดินทางกลับ ขอให้แจ้งสถานทูตล่วงหน้า เพื่อให้การบริหารจัดการที่นั่งบนแต่ละเที่ยวบินเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และไม่เสียโอกาสของท่านอื่น ๆ ที่ประสงค์จะเดินทางกลับด้วย
พร้อมระบุว่า ทางการไทย มุ่งมั่นนำพี่น้องชาวไทยในอิสราเอลที่ประสงค์เดินทางกลับไทยได้เดินทางกลับโดยเร็วที่สุด และตราบเท่าที่มีความจำเป็น สำหรับความกังวลในเรื่องค่าจ้างคงค้าง ทางการไทยโดยกระทรวงแรงงาน จะติดตามให้อย่างแน่นอน และทางการอิสราเอลก็พร้อมที่จะรับแรงงานไทยกลับไปทำงานในอนาคต จึงขอให้พี่น้องแรงงานไทยในอิสราเอลได้คำนึงถึงความปลอดภัยไว้ก่อน