นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) เปิดเผยถึงผลการยื่นคำขอผลิตไฟฟ้าและยืนยันการยื่นคำเสนอขายไฟฟ้าพร้อมเอกสารหลักฐานแสดงคุณสมบัติและข้อมูลความพร้อมทางด้านเทคนิคพร้อมเอกสารหลักฐาน ให้ยื่นคำเสนอขายไฟฟ้าตั้งแต่วันที่ 4 พ.ย.-25 พ.ย. รวม 22 วันว่า มีผู้ยื่นคำเสนอขายไฟฟ้า รวม 670 โครงการ คิดเป็นปริมาณพลังไฟฟ้าเสนอขายรวม 17,400 เมกะวัตต์ จากปริมาณเปิดรับซื้อ 5,203 เมกะวัตต์ หรือสูงกว่าปริมาณรับซื้อ 12,197 เมกะวัตต์ หรือคิดเป็น 234% หลังจากนี้ผู้ยื่นคำขอผลิตไฟฟ้าจะต้องยื่นซองคำเสนอขายไฟฟ้า และซองหลักฐานการวางหลักประกันการยื่นคำเสนอขายไฟฟ้า ให้แก่การไฟฟ้า ภายในวันที่ 30 พ.ย. และยื่นซองภายใน 2 ธ.ค.
“ขั้นตอนหลังจากผู้ยื่นซองเสนอขายไฟฟ้าแล้ว จากนั้นการไฟฟ้าจะตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ที่ยื่นคำขอผลิตไฟฟ้าในแต่ละประเภท เพื่อประกาศรายชื่อผู้ที่ผ่านเกณฑ์คุณสมบัติภายในวันที่ 9 ธ.ค. 65 ซึ่งผู้ยื่นขอผลิตไฟฟ้าที่ไม่ผ่านคุณสมบัติสามารถใช้สิทธิยื่นอุทธรณ์พร้อมเอกสารหลักฐานต่อ กกพ. ได้ภายในวันที่ 22 ธ.คคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. 65 โดยสำนักงาน กกพ. จะประกาศผลการพิจารณาอุทธรณ์คุณสมบัติ ภายในวันที่ 11 ม.ค. 65 และจะเผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์สำนักงาน กกพ. www.erc.or.th” คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
สำหรับการยื่นคำเสนอขายไฟฟ้า 670 โครงการ แบ่งเป็นผู้เผลิตไฟฟ้ารายเล็ก หรือเอสพีพี 272 โครงการ ปริมาณซื้อขาย 15,218.33 เมกะวัตต์ เป็นพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินร่วมกับระบบกักเก็บพลังงาน 52 โครงการ ปริมาณเสนอขาย 2,171.19 เมกะวัตต์, พลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน 141 โครงการ ปริมาณเสนอขาย 7,537.71 เมกะวัตต์ และพลังงานลม 79 โครงการ 5,509.93 เมกะวัตต์ ขณะเดียวกันกลุ่มผู้ผลิตฟ้าขนาดเล็กมาก หรือวีเอสพีพี มียอดรวม 398 โครงการ ปริมาณเสนอขาย 2,181 เมกะวัตต์ เป็นก๊าซชีวภาพ น้ำเสีย และของเสีย 2 โครงการ 6.5 เมกะวัตต์, พลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน 381 โครงการ 2,066.04 เมกะวัตต์ และพลังงานลม 15 โครงการ 109.04 เมกะวัตต์