การแข่งขันจักรยานประเภทเสือภูเขา ในศึกเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่เมืองชุยอัน ประเทศจีน ซึ่งห่างจากเมืองหางโจว ประมาณ 200 กม. เมื่อวันที่ 25 ก.ย. มีชิงชัย 2 เหรียญทอง จากรายการครอสคันทรีบุคคลชายและบุคคลหญิง ในช่วงเช้า ประเดิมด้วยการแข่งขันครอสคันทรีบุคคลหญิง ระยะทางรอบละ 4.94 กม. ปั่นจำนวน 4 รอบ รวมกับระยะทางที่ออกจากจุดสตาร์ตอีก 800 เมตร ระยะทางรวม 20.56 กม. ทีมไทยส่ง 2 นักปั่นสาวลงชิงชัย ได้แก่ “ไก่” ศุภักษร นันตะนะ, “นันท์” ยลธนันท์ พลกล้า โดยมี “เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี ประธานสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน (เอซีเอฟ) และนายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ เดินทางไปให้กำลังใจนักปั่นไทย ถึงขอบสนาม
ผลปรากฏว่า หลี่ หงเฟิง นักปั่นจีน เข้าเส้นชัยคนแรก ด้วยเวลา 1.30.59 ชั่วโมง คว้าเหรียญทองไปครอง ส่วนเหรียญเงิน เป็นของ หม่า ไคเซี๊ยะ นักปั่นเจ้าภาพอีกคน เวลา 1.36.45 ชั่วโมง และเหรียญทองแดง ฟารานัค ปาร์โตอาซาร์ จากอิหร่าน เวลา 1.42.44 ชั่วโมง ส่วน ยลธนันท์ และ ศุภักษร โดนตัดเวลา 80% ในรอบสุดท้าย ทำให้ ยลธนันท์ จบที่ 10 ส่วน ศุภักษร จบที่ 11
หลังเกม จ.อ.เสรี เรืองศิริ ผู้ฝึกสอนทีมเสือภูเขา กล่าวว่า รายการนี้ หลี่ หงเฟิง นักปั่นเจ้าภาพจัดหนักมาก ใช้ความได้เปรียบในด้านความคุ้นเคยสนาม ลากนักปั่นชาติอื่นๆ ปั่นตามจนหมดแรง ขนาด หม่า ไคเซี๊ยะ ยังโดนทิ้งเกือบ 6 นาที สำหรับ ยลธนันท์ และ ศุภักษร ก็สู้อย่างเต็มที่แล้ว แต่ ศุภักษร ที่โดนเจาะเลือดไป 4-5 หลอด ก่อนแข่งขันไม่ถึง 24 ชั่วโมง ทำให้ไม่มีเรี่ยวแรง
ขณะที่ น.ส.รจเรศ วัธนไทยนันท์ นักกายภาพบำบัดประจำทีมจักรยาน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 24 ก.ย. หลังจากนักกีฬาไทยฝึกซ้อมเสร็จ เวลาประมาณ 11.00 นคำพูดจาก เว็บสล็อต. ทางเจ้าภาพได้ไล่ตรวจหาสารกระตุ้นนักกีฬาทุกชาติที่เป็นคู่แข่ง มีทั้งการเจาะเลือด และเก็บตัวอย่างปัสสาวะ สำหรับทีมไทย ทางเจ้าภาพเรียกตัว ศุภักษร นันตะนะ ไปเจาะเลือด โดยใช้ไซรินจ์หรือกระบอกฉีดยา ดูดเลือดของศุภักษร ไปถึง 4 หลอดครึ่ง ซึ่งต้องใช้เวลาตรวจนานประมาณ 4 ชั่วโมง กว่านักกีฬาจะได้รับประทานอาหารกลางวัน ก็เป็นเวลา 15.00 น. ส่งผลให้นักกีฬาที่ถูกเจาะเลือดไปไม่มีแรง และโดนตัดเวลากันทุกคน เนื่องจากการที่นักกีฬาเสียเลือดไปขนาดนั้น และพักผ่อนไม่ถึง 24 ชั่วโมง ทำให้ร่างกายสร้างเม็ดเลือดแดงไม่ทัน รวมทั้ง อาเรียนา อีวานเกลิสตา จากฟิลิปปินส์ ก็โดนเช่นเดียวกัน ยกเว้นนักกีฬาจีนเจ้าภาพ 2 คน ที่ไม่โดนตรวจหาสารกระตุ้นเลย
ทางด้านครอสคันทรีบุคคลชาย ระยะทางรอบละ 4.94 กม. ปั่นจำนวน 5 รอบ รวมกับระยะทางที่ออกจากจุดสตาร์ตอีก 800 เมตร ระยะทางรวม 25.50 กม. ไทย ส่ง “โดด” กีรติ สุขประสาท และ “โตมร” พูนศิริ ศิริมงคล ลงชิงชัย ปรากฏว่า นักปั่นเจ้าภาพยังทำผลงานได้ยอดเยี่ยมคว้าทั้งเหรียญทองและเหรียญเงิน เช่นเดียวกับนักกีฬาหญิง เหรียญทอง มี จิ่วเจียง เวลา 1.32.37 ชั่วโมง, เหรียญเงิน หยวน จิน เว่ย เวลา 1.35.49 ชั่วโมง, เหรียญทองแดง โทกิ ซาวาดะ จากญี่ปุ่น เวลา 1.40.27 ชั่วโมง ส่วน พูนศิริ โดนตัดเวลา 80% ในรอบที่ 4 จบที่ 11 ขณะที่ กีรติ โซ่จักรยานขาด โดนตัดเวลา 80% ในรอบที่ 3 จบที่ 12
พล.อ.เดชา กล่าวว่า ต้องยอมรับว่านักกีฬาจีนมีความแข็งแกร่งมาก และอาจจะได้เปรียบเรื่องความคุ้นชินสนามแข่งขัน นอกจากนี้ทางคณะกรรมการจัดการแข่งขันยังได้ตรวจหาสารกระตุ้นของนักกีฬาทุกคน ซึ่ง ศุภักษร โดนเจาะเลือดไปถึง 4 หลอด และก่อนจะมีการเจาะเลือดก็ต้องตรวจปัสสาวะเสียก่อน กว่าที่นักกีฬาจะปัสสาวะออกก็ใช้เวลานาน รวมทั้งกระบวนการใช้เวลาเกือบ 4 ชั่วโมง กว่าจะได้รับประทานอาหารหารกลางวัน ก็ล่วงเลยเวลาไปหลายชั่วโมง ที่สำคัญการที่นักกีฬาเสียเลือดไปมากๆ ก็ทำให้ไม่มีแรง ร่างกายฟื้นตัวไม่ทัน แต่ก็ขอชื่นชมนักปั่นไทยทั้ง 4 คน ที่สู้อย่างสุดหัวใจ ผลแพ้ชนะเป็นเรื่องของเกมกีฬา เรายังมีการแข่งขันจักรยานประเภทอื่นๆ ให้ลุ้นอีกหลายรายการ.
